ประสบการณ์ทางวิญญาณ
ทั้งๆที่ทรงไม่แน่ใจและกริ่งเกรงแต่จักรพรรดิอู๋ตี้ก็ทรงเสด็จไปหาตั๊กม้อที่วัดชานเมืองเพียงลำพังตามนัดคืนนั้นพระองค์มิได้บรรทมทั้งคืนเพราะทรงลังเลอยู่ว่าควรเสด็จไปหรือไม่ไปดีแต่พระองค์ก็ทรงตัดสินพระทัยเสด็จไปในที่สุด
เท่าที่ผ่านมาพระองค์ได้เจอ ผู้รู้ จากชมพูทวีปมากมายรวมทั้งได้รับการถ่ายทอดอุบายวิธีต่างๆในการทำให้จิตสงบซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงลองปฏิบัติตามอยู่พักหนึ่งแล้วเลิกเสียเพราะพระองค์ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทางวิญญาณที่เข้าถึงความสงบแห่งจิตใจอย่างดื่มด่ำเลยแม้เพียงสักครั้งเดียว
ตั๊กม้อยืนรอจักรพรรดิอู๋ตี้ที่ลานวัดอยู่ก่อนแล้วโดยไม่รอช้าท่านสั่งให้จักรพรรดินั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียวณลานกว้างของวัดพร้อมกับกำชับว่า
ฝ่าบาทจงหลับตาหน้าที่ของฝ่าบาทในตอนนี้มี
อยู่เพียงอย่างเดียวคือค้นหาใจให้เจอและคว้าจับใจให้ได้
อาตมาจะถือไม้เท้านั่งอยู่ตรงหน้าฝ่าบาทนี้แหละ
หากฝ่าบาทพบใจและคว้าจับใจได้เมื่อไหร่
ก็ให้รีบบอกอาตมาเดี๋ยวนั้นเลยหลังจากนั้นเป็นหน้าที่
ของอาตมากับไม้เท้าอันนี้ที่จะทำให้ฝ่าบาทเข้าถึงความสงบได้
ทั้งๆที่ทรงรู้อยู่แก่พระทัยว่าตั๊กม้อผู้นี้ไม่เคยเกรงกลัวอะไรและคงกล้าตีพระองค์ด้วยไม้เท้าหากจำเป็นแต่พระองค์ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วจึงต้องหลับตานั่งขัดสมาธิทำการค้นหาใจของพระองค์เองตามที่ตั๊กม้อบอกแต่ไม่ว่าจะค้นหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ....เวลาผ่านไปเนิ่นนานมากแล้วนานจนกระทั่งใจที่ตอนแรกยังฟุ้งซ่านอยู่ขององค์จักรพรรดิค่อยๆสงบลงและ การตระหนักรู้ ได้เข้ามาแทนที่ใจที่ค่อยๆดับไปแล้วนั้น
ขณะนั้นพระอาทิตย์ได้โผล่ขึ้นทอแสงเหนือยอดเขาอันสงบงันลมพัดเอื่อยๆเย็นสบายพระพักตร์ขององค์จักรพรรดิอู๋ตี้สงบนิ่งดุจรูปปั้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนพระวรกายของพระองค์สั่นเทิ้มเล็กน้อยด้วยปิติที่เพิ่งได้เข้าถึง ความตระหนักรู้ ของพระพุทธะเป็นครั้งแรกในชีวิตของพระองค์
ตั๊กม้อเอ่ยปากถามองค์จักรพรรดิว่า
เวลาผ่านไปนานโขแล้วไม่ทราบว่าฝ่าบาทได้พบใจหรือไม่ ?
ใบหน้าในขณะนี้ของตั๊กม้อยิ้มละไมตัดกับรูปโฉมภายนอกที่ดูดุดันน่าเกรงขามนี่เป็นครั้งแรกกระมังที่จักรพรรดิอู๋ตี้ได้แลเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของคุรุผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าของพระองค์จักรพรรดิทรงลอบละอายพระทัยที่เมื่อแรกพบทรงดูแคลนตั๊กม้อที่มีรูปลักษณ์ภายนอกไม่เหมือน คุรุในอุดมคติ ที่ทรงเคยจินตนา- การเอาไว้
ท่านอาจารย์ข้ารู้แล้วว่าไม่มีใจดำรงอยู่ที่ไหนเลย
และข้าก็เพิ่งได้ยินเสียงจากภายในของตัวข้าเองเป็นครั้งแรกด้วย
โอ! ท่านทำให้ตัวข้าเข้าถึงความสงบอย่างแท้จริงได้
เป็นครั้งแรกในชีวิตสิ่งที่ท่านเคยบอกข้ามันจริงทุกอย่าง
ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าการกระทำทุกอย่างของคนเรานั้น
จะต้องเป็นผลบุญในตัวของมันเอง
ไม่มีใครอื่นมาให้คุณให้โทษแก่ตัวเราได้หรอก
ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็ตามเพราะตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน
และตนเป็นเจ้าชะตาชีวิตของตน
ฝ่าบาทเป็นศิษย์ผู้เป็นเลิศคนหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง
แค่นั่งเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวกับอาตมาก็สามารถ
ตระหนักรู้ได้ถึงขนาดนี้นับเป็นวาสนาของประเทศนี้แล้ว
ด้วยความศรัทธาสูงสุดจักรพรรดิอู๋ตี้ทรงเชิญปรมาจารย์ตั๊กม้อให้เข้าวังมาเป็นราชครูฝ่ายสงฆ์ของพระองค์แต่ตั๊กม้อปฏิเสธ
นั่นมิใช่ที่ไปของอาตมาอาตมาเป็นผู้รักอิสระ
อย่างมิปรารถนาให้มีสิ่งใดมาขวางกั้น
อาตมามีชีวิตอยู่แค่จากชั่วขณะหนึ่งไปยังอีกช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น
โดยไม่คิดวางแผนคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ
และก็ไม่มีใครในโลกนี้จะคาดเดาพฤติกรรมของอาตมาได้ด้วย
สิ่งที่อาตมาได้ถ่ายทอดให้แก่ฝ่าบาทไปในวันนี้ก็น่าจะ
เพียงพอแล้วขอให้อาตมาไปตามทางของอาตมาเถิด
จุดเริ่มต้นของเซนในจีนเริ่มขึ้นนับแต่บัดนั้น