ยอดคนพุทธทาส Integral Buddha
รายชื่อหนังสือ - ยอดคนพุทธทาส Integral Buddha
จำนวน - 335 หน้า
เนื้อใน - ขาวดำ
เดือนปีที่พิมพ์ - มิถุนายน 2553
สำนักพิมพ์ - มังกรบูรณา
ราคา 220 บาท
รายละเอียด
..ปริศนาธรรมโบราณกล่าวว่า
“ก่อนปฏิบัติธรรมภูเขาย่อมเป็นภูเขา ในขณะปฏิบัติธรรมภูเขา กลับมิใช่ภูเขา แต่เมื่อบรรลุธรรมแล้วภูเขาย่อมกลับมาเป็นภูเขาอีกครั้ง” นี่เป็น เรื่องราวของบุรุษหนึ่ง จากพระธรรมดา เคยกลายเป็นพระบ้าในสายตาของผู้คน และสุดท้ายกลับกลายเป็นพระธรรมดา (ที่ไม่ธรรมดา) อีกครั้ง
บุรุษนั้นมีนามว่า “พุทธทาส อินทปัญโญ”
สัจธรรมแม้มีเพียงหนึ่ง แต่ทว่าร้อยหมื่นถ้อยคำกลับยังมิอาจ ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดอักษรใดๆ โดยสมบูรณ์ จึง ทำได้เพียงแต่บอกกล่าว วิธีการเข้าถึงให้แก่กันเท่านั้น คล้ายประหนึ่งหากคิดอธิบายถึงสิ่งที่เรียกว่า ดวงจันทร์ ถ้อยคำอันใดก็ไม่อาจถ่ายทอดได้ดีเท่ากับนิ้วมือที่ชี้ตรงไปยังจันทรา ในท้องนภา
แต่ก็มีอยู่หลายคราที่ผู้คนกลับไปเพ่งมองที่นิ้วมือมิได้เพ่งพิศไป ยังดวงจันทร์
มี อยู่หลายคราที่ผู้คนมีศักยภาพพอจะพายเรือข้ามฝั่งน้ำได้ แต่ กลับไม่ยอมข้ามไปเพียงเพราะเสียดายที่ตนเองจะต้องทิ้งทรัพย์สมบัติคือเรือ เอาไว้เบื้องหลัง
ย้อน กลับไปครั้งยุคสมัยของท่านพุทธทาสในวัยหนุ่ม ขณะนั้น ความหย่อนยานในการปฏิบัติธรรมตามหลักพุทธศาสนามีปรากฏให้เห็นอยู่ อย่างแพร่หลาย พระภิกษุและผู้คนจำนวนไม่น้อยเพียงคิดว่าพุทธธรรมเป็น เพียงคำสอนทางหลักทฤษฎี แม้ ในส่วนภาคปฏิบัติเจริญภาวนาก็ยังกลายเป็น ความรู้ทางวิชาการ อีกทั้งสถานะของพระภิกษุยังกลายเป็นเครื่องมือสำหรับ การไต่เต้าเลื่อนระดับฐานะทางสังคม ผู้คนล้วนมองว่าจุดหมายปลายทางอัน ได้แก่โลกุตรธรรมเป็นเรื่องไกลตัวที่ไม่สามารถเข้าถึงได้
แต่พระหนุ่มอย่าง พุทธทาส อินทปัญโญ มิได้คิดเช่นนั้น ในเมื่อ พุทธธรรมมีปรากฎอยู่ ย่อมแสดงว่าต้องสามารถปฏิบัติจนเข้าถึงได้จริง แม้ใน ขณะนั้นจะหาผู้ที่เข้าใจในการเจริญภาวนาได้ยากเต็มทน แต่ท่านพุทธทาสก็ไม่ ยอมแพ้ จนถึงขนาดค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเอง
ท่านคิดถึงขนาดที่ว่าจะกอบกู้พุทธธรรมให้กลับคืนสู่สังคม
การ ที่คนผู้หนึ่งจะสามารถมีประสบการณ์เข้าถึงบางสิ่งหรือสิ่งใด สิ่งหนึ่งได้อย่างลึกซึ้งโดยอาศัยเพียงการค้นคว้าศึกษาด้วยตนเองย่อมไม่อาจ ผ่านพ้นได้ด้วยวิถีชีวิตอันรวบรัดเรียบง่ายธรรมดา ท่านพุทธทาสก็เฉกเช่นเดียว กันย่อมต้องผ่านการเคี่ยวกรำทางจิตวิญญาณมาอย่างหนักหนาไม่เบา กว่าจะ สามารถเข้าถึงพุทธธรรมอันลุ่มลึก ดังนั้นเรื่องราวและวิถีชีวิตของท่านพุทธทาส จึงสมควรนำมาศึกษาเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เข้าถึงคำสอนของท่านที่ปรากฏเป็น ผลงานฝากไว้แก่สังคมตราบเท่าทุกวันนี้
อาจารย์สุวินัยได้เขียนผลงาน พุทธบูรณา หรือ “พุทธทาสฉบับ ท่าพระจันทร์” อันเป็นเรื่องราวชีวิตของท่านพุทธทาสขึ้น เพื่อรำลึกเนื่องใน โอกาส 100 ปี แห่งชาติกาล อีกทั้งยังมาจากแรงบันดาลใจที่ต้องการสืบสาน ปณิธานของท่านพุทธทาสผู้เป็นปราชญ์แห่งพุทธศาสนาด้วยหวังว่า เมล็ดพันธุ์ แห่งพุทธะนี้จะได้ถูกหว่านลงบนพื้นที่ภายในหัวใจของผู้คน รอวันเติบโตออก ดอกผลในอนาคต หนังสือพุทธบูรณาเล่มนี้จึงเปรียบเสมือนธรรมนิยายอันมา จากชีวิตจริงของท่านพุทธทาส โดยเล่าถึงความเป็นมาตลอดจนวิถีการดำเนิน ชีวิตและปณิธานในการเผยแผ่พุทธธรรมของท่านจวบจนวันละสังขาร
ตลอด ชีวิตของท่านพุทธทาส ท่านได้ใช้วิถีชีวิตของตนเองเป็นการ ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา นอกเหนือจากนั้นยังถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ผ่าน ทางปาฐกถาและงานเขียนมากมาย อันเป็นผลงานอันทรงคุณค่าของสังคมไทย และชาวโลก เท่ากับว่านิ้วมือหนึ่งที่ชื่อว่า “พุทธทาสภิกขุ” ได้ชี้ไปยังดวงจันทร์ อันได้แก่พุทธธรรมให้แก่ผู้คนมาแล้วในยุคสมัยหนึ่งจวบจนถึงปัจจุบัน
อาจารย์ สุวินัยเคยกล่าวว่า สำหรับงานเขียนเรื่องมูซาชิฉบับท่า พระจันทร์นั้น แม้ได้จบเรื่องราวของมูซาชิในยุคแสวงหาตัวตนของเขาไปแล้ว แต่ก็ยังมิใช่ภาคจบที่สมบูรณ์ ตลอดชีวิตของมูซาชิตั้งแต่เมื่ออุทิศตนให้แก่วิถี แห่งดาบ จวบจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในช่วงปัจฉิมวัย ทำให้เขาเปรียบ เสมือนยอดคนทางโลกียะ หากแต่ความสมบูรณ์ของชีวิตกลับมิได้หยุดยั้งอยู่ เพียงเท่านั้น ใน พุทธทาสฉบับท่าพระจันทร์นี้ท่านพุทธทาสก็เปรียบเสมือนมูซาชิ ในภาคโลกุตตระ หรือผู้แสวงหาแก่นแท้และสัจธรรมของชีวิตด้วยตนเองเฉก เช่นเดียวกันและถือเป็นภาคจบของกระบวนการค้นหาพัฒนาชีวิตและจิต วิญญาณในด้านโลกุตตระอย่างแท้จริง
นิ้วชี้จันทรา เวลาเนิ่นผ่าน หมุนเวียนเปลี่ยนกาล สืบสานปณิธาน ธรรม กาลเวลาแม้ผ่านไปแต่ผู้คนก็หมุนเวียนสับเปลี่ยนมาเล่นละครบนเวที คือโลกใบนี้ไปอย่างมิเคยซ้ำหน้า แต่ทว่าดวงจันทร์ยังคงเป็นดวงเดิม นิ้วมือ แล้วนิ้วมือเล่าซึ่งได้สืบทอดปณิธานจากคนรุ่นก่อนก็ยังคงชี้ไปยังดวงจันทร์ ดวง เดิมอยู่นั่นเอง สำนักพิมพ์มังกรบูรณาจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่ง ของนิ้วมือซึ่งชี้ไปยังปลายทางอันแสนยาวไกลเส้นนั้นด้วย
อันเป็นปลายทางที่ท่านพุทธทาสเคยชี้บอกไว้
ด้วยจิตคารวะ